"เส้นทางแห่งกาลเวลา: ย้อนรอยชีวิตในห้วงเวลาบิดเบือน"
"เมื่ออีธาน ทอมป์สันถูกดึงเข้าสู่การเดินทางที่ไม่มีที่สิ้นสุดบน 'รถไฟแห่งกาลเวลา' เขาต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของอดีตและอนาคตในโลกที่ความจริงและเวลาเริ่มบิดเบือน"
ผู้เข้าชมรวม
48
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
แฟนตาซี ผจญภัย พลังพิเศษ ทะลุมิติ นิยายแฟนตาซี ชีวิตประจำวัน เเฟนตาซี เทคโนโลยี ย้อนเวลา Fantasy fantasy นิยาย มิติ จิตวิทยา
ชีวิตในเมืองหลวงของอีธาน ทอมป์สันต้องหยุดชะงักลงในทันที เพราะเมื่อเขาก้าวเท้าเข้าไปในบริษัท ก็พบป้ายติดประกาศใบใหญ่อย่างเด่นชัด เมื่อเขาเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบชื่อของเขาถูกบริษัท TechCorp จ้างให้ออกจากงาน เพราะทางบริษัท TechCorp ต้องการที่จะลดจำนวนพนักงานลง ซึ่งตัวอีธานเองก็ไม่ได้มีความโดดเด่นอะไรมาก เขาจึงถูกบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่สุดในเมืองนิวเฮเวนจ้างให้ออกจากงาน เขารู้สึกทั้งผิดหวัง ท้อแท้ และเสียใจ ความรู้สึกผสมปนเปกันไปหมด เขาเดินเหม่อลอยออกจากบริษัทอย่างไร้จุดมุ่งหมาย แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจได้ว่า เขาควรจะเดินทางกลับบ้านเกิดอีกครั้ง
ในเช้าวันรุ่งขึ้นเขาจึงเดินทางไปที่สถานีรถไฟที่พร้อมจะพาเขากลับไปยังบ้านเกิดที่เขาจากมานานนับ 10 ปี เพราะเมื่อตอนที่เขาเรียนจบ เขาก็ได้งานที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่สุดในเมืองนิวเฮเวน และเขาก็ใช้ชีวิตเพียงลำพังมาตลอด 10 ปี โดยที่พ่อแม่ของเขาแทบจะไม่ได้รับรู้ความเป็นไปของเขาสักเท่าไหร่ ในวันนี้คงถึงวันที่เขาจะต้องกลับบ้าน กลับไปหาอ้อมกอดของพ่อแม่ของเขาเสียที หลังจากที่เขาไม่ได้กลับมาเนิ่นนาน…
อีธานมาถึงชานชาลารถไฟ เขาซื้อตั๋วรถไฟเรียบร้อย จากนั้นอีธานก็ก้าวขึ้นรถไฟ ไม่นานรถไฟก็ออกจากชานชาลา ขณะที่รถไฟออกจากสถานีนิวเฮเวน อีธานก็นั่งลงบนที่นั่งของเขาและหลับตาลง ปล่อยให้จังหวะของรางรถไฟขับกล่อมเขา และทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้น แต่แล้วรถไฟก็ลดความเร็วลง ขณะที่อีธานยังหลับตาอยู่ เขาก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่ารถไฟที่เขานั่งมานั้นมันหยุดอยู่กลางอากาศ และต่อมามันก็ขยับ แต่ความเร็วลดลง
ขณะที่รถไฟแล่นไปอย่างช้าๆ อีธานก็ลืมตาขึ้น เขาลูบบริเวณขมับ พยายามสลัดอาการวิงเวียนศีรษะ เมื่อเขามองไปรอบ ๆ เขากลับพบว่าไม่ได้นั่งอยู่ที่เบาะรถไฟที่เขานั่งมา แต่เขากลับนั่งที่เก้าอี้ที่เขาเองก็รู้สึกคุ้นๆตา แล้วเขาถึงกับต้องผงะ ว่าทำไมเขากลับมาที่บริษัท TechCorp ได้ และเขาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติไปจากเดิม นาฬิกาบนผนังบอกเวลา 8:45 น. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับการสัมภาษณ์งานครั้งแรกของเขา ซึ่งเขาจำได้เป็นอย่างดี เพราะมันคือจุดเริ่มต้นชีวิตในเมืองนิวเฮเวนของเขานับจากนี้เป็นต้นไป ด้วยความสับสนกลับกลายเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ และตัวอีธานเองก็ตระหนักได้ว่าเขาได้เดินทางย้อนเวลากลับมาที่จุดเดิมอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่เขาเดินไปรอบๆเมืองนิวเฮเวน อีธานก็คิดว่านี่อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือพรจากพระเจ้าที่มอบโอกาสในการแก้ไขชีวิตที่สิ้นหวังให้กลับมาเป็นชีวิตที่สมหวังอีกครั้งก็ได้ เขาสามารถกลับไปเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาได้ เขาสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดและตัดสินใจเลือกทำอย่างอื่นที่เขาสามารถจะทำให้มันดีขึ้นได้
หลังจากนั้นอีธานได้เข้าทำงานที่ TechCorp เขาทำงานอย่างหนักมุ่งมั่นทุ่มเทความสามารถทั้งหมดที่เขามีลงไป และเขาได้เริ่มสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อเพื่อนร่วมงาน ทำให้เพื่อนร่วมงานต่างยกย่องในตัวเขา ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก ไม่นานนักเขาก็ได้รับการสนับสนุนเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าแผนก และด้วยความที่เขาย้อนเวลากลับมา ทำให้เขารู้ถึงจุดที่จะต้องแก้ไขและพัฒนาตัวเอง จนในที่สุดเขาก็ไต่ระดับก้าวขึ้นไปถึง CEO ณ ตอนนั้นเองเขาก็ทำให้ TechCorp ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจนคู่แข่งเองก็เริ่มตามไม่ทัน ในไม่ช้าเขาก็สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองและคนในวงการเทคโนโลยี ต่างก็พูดถึงเขาเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น
หลายปีผ่านไปการทำงานของอีธานก็ไม่เคยลดลงเลยแม้แต่น้อย ความทะเยอทะยานของเขาไม่มีที่สิ้นสุด จนมาถึงวันนึงเขาจึงตัดสินใจลาออกจากบริษัท TechCorp และเริ่มก่อตั้งบริษัทของตัวเองภายใต้ชื่อ Great Technology เขาใช้ระยะเวลาเพียงห้าปี ก็นำพา Great Technology เป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี กิจการของ Great Technology เติบโตอย่างต่อเนื่อง
จนวันหนึ่งเขาได้ทำการควบรวมกับบริษัท TechCorp ยิ่งทำให้ทั้งสองบริษัทแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และไม่นานเขาก็กลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมหาศาล จากการขายสินค้าทั้งซอฟแวร์และฮาร์ดแวร์ไปทั่วทั้งโลก และเขาเองก็มีโครงการพัฒนาแคปซูลแห่งกาลเวลา ที่จะช่วยนำพาคนที่ผิดหวังสิ้นหวัง ให้มีกำลังใจขึ้นอีกครั้ง มันอาจเป็นเครื่องที่น่าจะเรียกว่า กล่อมประสาทเหมือนยาเสพติดให้รู้สึกดีขึ้นแค่ชั่วคราว แต่มันยังเป็นแค่การทดลองยังไม่ได้ใช้จริง ซึ่งยังถูกปิดเป็นความลับอยู่ ที่เขาคิดเครื่องนี้ขึ้นมาก็เพื่อสำหรับคนที่ไม่ได้โชคดีแบบเขาที่ได้มีโอกาสย้อนกลับมาแก้ไขอดีต แต่มันอาจจะช่วยบรรเทาจิตใจของคนคนนั้นได้ แต่อีธานในตอนนี้คงไม่ต้องพึ่งเครื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะเขาไม่รู้สึกถึงความตกต่ำในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว เขาได้แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตที่ทำผิดพลาดได้หมดแล้ว เขาทำทุกอย่างได้อย่างยอดเยี่ยมและสมบูรณ์ที่สุด
เขารู้สึกขอบคุณในวันนั้นที่รถไฟ พาเขาเดินทางย้อนกลับมาแก้ไขเรื่องราวต่างๆมากมาย
ในวันหนึ่งขณะที่เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อ่อนนุ่ม เขาจิบกาแฟพรางมองออกไปที่กระจกใสบานใหญ่บนยอดตึกสูงที่เขาสร้างขึ้น เขามองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองนิวเฮเวน เขาเหม่อมองออกไปไกลจนสุดสายตา และเขาก็มีความรู้สึกอยากกลับไปหาพ่อแม่ของเขาที่บ้านเกิด ในถิ่นชนบทที่ไกลจากเมืองนิวเฮเวนเป็นพันไมค์ พ่อแม่ของเขาก็แทบจะไม่ได้รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับตัวเขาเลยด้วยซ้ำว่าลูกชายของเขาเป็นอย่างไร เขาจะกลับไปเพื่อบอกว่าเขาได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และมีฐานะความเป็นอยู่ที่สุขสบาย ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี เขาอยากพาพ่อแม่ของเขามาอยู่ด้วยกันกับเขาที่เมืองใหญ่แห่งนี้
เช้าวันรุ่งขึ้นเขาจึงได้ลางานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และนั่งเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเพื่อบินกลับไปยังบ้านเกิดของเขา และต้องไปลงสนามบินที่ใกล้ที่สุด จากนั้นต้องหาเช่ารถเพื่อขับต่อไปอีกที เพราะบ้านเขามันเป็นถิ่นชนบท ความเจริญยังมีไม่มากพอ
ในขณะที่เขานั่งอยู่บนเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวที่กำลังบินมุ่งหน้ากลับบ้านอยู่นั้น อีธานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกภาคภูมิใจกับตัวเองพร้อมกับความสำเร็จในชีวิตอีกครั้ง หลังจากที่ได้ย้อนเวลากลับมาแก้ไขส่วนที่ผิดพลาดในชีวิต จากที่ตกต่ำสุดกลับพุ่งขึ้นสูงสุด จนเขาเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นความจริง แล้วอีธานก็ลองหยิกหน้าตัวเองเต็มแรง จนเขาถึงกลับร้อง โอ๊ย… เสียงดัง….ไม่ใช่ ความฝันจริงๆนะเนี่ย เขาพูดในใจ
แต่แล้วอยู่ๆก็เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาด ก่อนที่เครื่องบินใกล้จะถึงสนามบินเพื่อลงจอด อีธานกลับรู้สึกถึงความคุ้นเคยแบบนี้ ความรู้สึกที่เหมือนมันหยุดนิ่ง แล้วก็เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ เขาลองมองออกไปที่นอกหน้าต่างเครื่องบิน ภาพทิวทัศน์นอกหน้าต่างเริ่มเบลอและบิดเบี้ยว เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองถูกดึงย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง เขาสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คราวนี้เขาไม่ได้หลับตา เขาเบิกตากว้างเพื่อจะรับรู้ว่ามันคือปรากฏการณ์อะไร แต่แสงสีขาวกับภาพบิดเบี้ยวที่หมุนวน จนเขาไม่อาจที่จะทนไหว เขาเผลอหลับตาลง ช่วงที่อีธานหลับตาลง….
ภาพชานชาลารถไฟปรากฏขึ้นอีกครั้ง และอีธานก็ก้าวขึ้นรถไฟ และรถไฟก็ออกจากชานชาลา อีธานก็นั่งลงบนที่นั่งและหลับตาลง ปล่อยให้จังหวะของรางรถไฟขับกล่อมเขา และทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย แต่แล้วรถไฟก็ลดความเร็วลง ขณะที่อีธานยังหลับตาอยู่ เขาก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่ารถไฟที่เขานั่งมามันหยุดอยู่กลางอากาศ และต่อมามันก็ขยับ แต่ลดความเร็วลง
ขณะที่รถไฟแล่นช้าลง อีธานก็ลืมตาขึ้น เขาลูบบริเวณขมับ พยายามสลัดอาการวิงเวียนศีรษะ เมื่อเขามองไปรอบ ๆ เขาพบว่าไม่ได้นั่งอยู่ที่เบาะรถไฟที่เขานั่งมา แต่เขากลับนั่งที่เก้าอี้ที่เขาเองก็รู้สึกคุ้นตา แล้วเขาก็ถึงกับต้องผงะ
ทำไมเขากลับมาที่บริษัท TechCorp ได้…….
****************************************************************************************
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ไลค์ลาเต้ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ไลค์ลาเต้
ความคิดเห็น